Business Performance Q3/2024
ยอดขาย
- Q3/24 โต 1.6% YoY 3.1%QoQ
- ในประเทศ 551 ลบ. เป็น New high และโต 11.9%YoY, 10.9% QoQ จากกิจกรรมออกสินค้าใหม่สาหร่ายปรุงรส เป็น Toping โดยขยายการรับประเทศควบคู่กับอาหาร,ใช้ idol marketing ภาคอีสาน เพื่อสร้างตลาด TT, จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปิด)
- ต่างประเทศ ลดลง -3.7% เนื่องจากการลดลงของจีน ลดลง -15.1% (วันนี้ผู้บริโภคจีน มุ่งเน้นสินค้าจำเป็น ตัว food, Snack จะปรับตัวสูงขึ้น ยอดขายปีนี้ยอดขายทรงๆ ต่างประเทศอื่นๆ เติบโต 3.1%, ขยายช่องทาง US, อินโดนีเซีย มาเลเซีย ออสเตรเลีย และยุโรป ลดการถึงพาตลาดจีน, จัดกิจกรรมสื่อการขาย
- 9M/24 โต 6.5% YoY
- ในประเทศ โต 7.1%
- ต่างประเทศ โต 6.1% จีน 9M ลดลง -10.7% ต่างประเทศอื่นๆ 9M โต 17%
สัดส่วนรายได้
- สัดส่วนรายได้ ในประเทศ 38%
- สัดส่วนรายได้ ต่างประเทศอื่นๆ 42%
- สัดส่วนรายได้ จีน 21%
ต้นทุน
- Seaweed 38%
- Packing 25%
- ต้นทุนแรงงาน 19%
- Overhead 9%
- วัสตุอื่นๆ 9%
กำลังการผลิต U-rate 67% (Rojna 69% Nopawong 48%) ใกล้เคียงปีที่แล้ว
กำไรขั้นต้น
- Q3/24 ทำได้ 30.1% to net sale ลดลงจาก Q2 เนื่องจากมีต้นทุนสาหร่ายที่สูงขึ้น แต่มีการจัดการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดี % to sale คงที่ และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
กำไรสุทธิ
- Q3/24 โต คิดเป็น 9.2% to net sale 16.4% to net sale YoY. มีผลกระทบจากต้นทุนสาหร่าย แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบนี้ลดลงไปได้บ้าง เพราะมีการบริการต้นทุนอื่นๆ เช่น ค่าแรง การผลักดันสินค้าในช่องทางใหม่ ในช่องทางที่มีกำไรมากขึ้น ทำให้ลดผลกระทบของต้นทุน และทำให้ GP ดีขึ้น กว่าที่ควรจะเป็น การบริหารค่าใช้การจัดจำหน่ายหน่าย และการบริหาร โดยรักษาระดับเท่าๆ เดิม และมีผลกระทบจากการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน คิดเป็น 2.7% ของ Net sale
- 9M/24 คิดเป็น 16.4% to net sale และ โต 21% YoY (ในประเทศ โต xx% ต่างประเทศ โต xx%)
D/E เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จาก 0.45 เป็น 0.74 เนื่องจากการกู้ยืมเงินระยะสั้น เพื่อ Support working capital ของบริษัท
ตลาดจีน
- สถานการณ์ของจีนยังเหนื่อยอยู่ วันนี้ผู้บริโภคจีน มุ่งเน้นสินค้าจำเป็น ตัว food, Snack จะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้า ทำให้คนจีนระมัดระวังการจ่ายเงินมากขึ้น ยอดขายปีนี้ยอดขายทรงๆ ภาพร่วมของ FMCG ครึ่งปีแรกช่องทาง offline ลดลง -2.2%, online เติบโต 9.6% ภาพรวมทั้งสองช่องทางโต 1.9% ซึ่งไม่ได้ดีกว่าที่คิด มีการลดตัวของ Store ต่างๆ ที่ช่องทางจำหน่ายของ TKN ปิดตัวลง
- แต่มีช่องทางใหม่ที่เติบโตสูง Super ming, MINISO ทาง TKN ก็แทรกซึมเข้าไปในช่องทางเหล่านี้ ช่องทางนี้เน้น Money for money มากๆ พวกสินค้า brand name ราคาแพงจะเหนื่อยหน่อย ต้องมี Promotion ต้องมี Connection ที่แข็งแรง ของ TKN เน้นคุณภาพสินค้า ราคายุติธรรม ไม่ได้ถูกเท่าสินค้าจีน แต่พยายามใช้ Marketing ออกเฟเวอร์ใหม่ ไม่ให้ Product นิ่ง
- ออกสินค้าใหม่ Y2024 ครึ่งปี มีสินค้าใหม่ๆ รสชาติไปทางมะพร้าว มะม่วง หรือ มุ่งเน้นทาง Healthy เช่น Ping salt, หรือทาง Fun Excited flavor
- ไปออกบูช ร่วมกับโรงแรม ร่วมกับร้านอาหารในจีน
- ช่องทาง E-commerce ในช่วงที่ผ่านมาติดยอดขายสูงอยู่ที่ 2 แต่ตก -7% แต่สินค้าเจ้าๆ อื่นก็ตกเหมือนกัน แต่ตกมากกว่า
- การทำ Marking ช่วง Chinese new year 2025 ทั้ง offline, online
ตลาด US market
- ALDI ซึ่ง work กันมานาน 120 Stores
- Walmart 1200 Stores (4 SKU) เป็นความภาพภูมิใจของไทย เปิดมา 4 ตู้ และเติม 5-6 ตู้ เดียวดูระยะยาวว่าจะเป็นยังไง เพราะมีลูกค้าจีนที่ Walmart
- Kroger 800 Store รอดูระยะยาวว่าจะเพิ่มขายังไงได้บ้าง
EU market
- เยอรมัน มีการขยายสินต่างๆ
- ฮอลแลนด์ ขยายไปช่องทางหมายเลข 1 และ 2 จำนวน 1200 Stores
สถานการณ์ราคาสาหร่าย
2025 เกาหลีอนุมัติขยายพื้นที่เพาะปลูกไปแล้ว ทำให้ Supply มากขึ้น แต่ปริมาณ Stock ที่ทำสาหร่ายในเกาหลี อาจจะทำให้ demand supply เท่าๆ กัน
คุณต๊อบเริ่มพูดเสริม
เรารู้แล้วว่าช่องทางเก่าของจีนเริ่ม Decline ถดดอยลง และพยายามเพิ่มช่องทางใหม่ ที่ต้องเน้นของจีน ให้ TKN กลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยเพิ่มช่องทางการขายที่ถูกที่ถูกทาง โดยรู้แล้วว่าจะไปช่องทางไหน และให้ใคร ต้องใช้เวลาอีกนิดหน่อย
ตลาดจีนต้องเน้น Innovation ที่เป็น NPD เพิ่มขึ้น ปีนี้ออกมาประมาณ 7 ตัว ยอดขายประมาณ 1500 ล้าน ซึ่งจะน้อยไป เทียบกับไทย ประมาณ 2000 ล้าน มี NPD เกือบ 30 ตัว รวมพวก special pack ด้วย แม้เศรษฐกิจดีไม่ได้ แต่ TKN เติบโตได้ดี เพราะเกิด NPD มาหลากหลาย โดยกลยุทธ์นี้จะมาใส่ที่จีนมากขึ้น โดยคุยกับ distributor แต่ไม่ได้หวือหว่า แต่กลับมาในระดับที่ดีขึ้น
Outlook Q4
- รายไดในประเทศยังเติบโต ประเทศอื่น ยังโต แต่จีนยังทรงตัว โดยรวม TKN น่าจะโต 6-7% แต่ถ้าจะมากกว่านี้ ถ้าเดือนนี้กับเดือนหน้า Order มาแรงขึ้น โอกาสโตจะมากขึ้น
- ประเทศที่คิดว่าจะโตยากอย่างไทย แต่ก็โต 2 digi
- ตั้งแต่โควิดมาก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง
- จีน ได้รับผลกระทบเรื่องต่างๆ
- ประเทศอื่นๆ รวมๆกันทำได้ดีอยู่ เมื่อเทียบกับก่อนโควิด ซึ่ง 4-5 ปี TKN โตมาเกือบ 2 เท่า และมี Room การโตอีกมาก แต่โชคไม่ดีที่ต้นทุนสาหร่ายสูงมากจริง บาง Spec ขึ้นไปเกือบ 100% จึงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ จากเชิงรุกมากๆ ปรับเป็นบาลานซ์ให้มากขึ้น เพราะไม่มีแนวคิด Burn margin เพื่อเอายอดขาย พยายามบาลานซ์ให้มั่นคง ยั่งยืน
- Q4/24 ตัว Gross magin อาจจะจะลดลงกว่า Q3 เพราะรับรู้ต้นทุนการผลิตเกือบทุก SKU และมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และ Q4 TKN ต้องปรับตัวเพื่อลค่าใช้จ่าย ข้อเท็จจริงที่ต้นทุนสูงขึ้น เงินบาทผันผวน และสิทธิ BOI ที่หมดไปในบางไลน์ผลิต ปกติช่วย save ภาษีประมาณ 100 ลบ.
- ตอนนี้เริ่มปรับกลยุทธ์ โดยปรับราคาสินค้าบางรายการ ประมาณ 5-10% โดยเริ่มในประเทศก่อน โดยเริ่มประมาณ Q1/25
- ในรอบ 20 ปี เป็นปีที่ไม่เคยเจอวัตถุดิบสาหร่ายมันเปลี่ยนแรงขนาดนี้ ประเด็นเรื่องสาหร่าย ไปเจอ Supplier 6 เจ้าที่เกาหลี โดย Productivity สาหร่ายจะเพิ่มขึ้น 5-10% โดยรัฐบาลเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น เพราะเขากระทบผู้บริโภค พ่อค้าแม่ค้าของเขาเหมือนกัน แม้ Supplier เพิ่มขึ้น แต่บริษัทต่างๆ เขา Stock น้อย เพราะราคาสูง ดังนั้นพอเปิดฤดูกาลมีความเสี่ยงที่ราคาสาหร่ายเพิ่มขึ้น เพราะทุกคนต้องการซื้อ
- วัตถุดิบช่วงแรกต้นฤดูกาลจะไม่กระทบมาก ปกติซื้อช่วงกลางฤดูกาล – ปลายฤดูกาล
- ราคาสาหร่ายจะลงหรือขึ้น อยู่ที่ Demand-Supply ของเกาหลี แต่ดูแล้ว Supply เริ่มสูงขึ้น และความการปลูกของญี่ปุ่น และจีนว่าปลูกได้ปกติไหม เพราะก่อนหน้านี้ญี่ปุนปลูกไม่ได้เลย เขาจึงซื้อซื้อทุกราคา ซึ่งปกติญี่ปุ่นราคาสูงอยู่แล้ว แต่พอมาซื้อกับเกาหลีซึ่งไม่กระทบกับญี่ปุ่น สถานการณ์นี้ไม่ปกติ ซึ่งราคานี้เกิดเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
Direction Y2025
ตลาดในประเทศ
- จะเพิ่มช่องทางของ Tourist นักท่องเที่ยวมาเยอะและจ่ายเยอะ
- โดยเพิ่ม SKU ใหม่ เพิ่มช่องทางใหม่ กลยุทธ์หลักๆ คือปรับโครงสร้างราคาสินค้า ปรับสัดส่วนสินค้า และปรับ Promotion บางตัว
- ตัดสินค้าบางตัวที่ไม่ใช้ Key SKU
- โฟกัสค่าใช้จ่ายทางการตลาด
ตลาดต่างประเทศ
- ปรับโครงสร้างราคาสินค้า
- เพิ่ม SKU เพิ่ม Product ใหม่ ที่เพิ่ม GP
- โฟกัสค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สร้างยอดขายได้เหมือนประเทศ
ภาพรวม
- พัฒนาสินค้า TKN ใหม่ที่ใช้สาหร่ายน้อยลง โดยเริ่มตั้งแต่ปีนี้แล้ว แต่ต้องใช้เวลา ตอนนี้เริ่มเห็นทางแล้ว และปีหน้าสามารถออกได้ โดยใช้สาหน่ายน้อยลง แต่ยังคง Scale ได้ในประเทศและต่างประเทศ
- พัฒนาการปรับปรุงไลน์ผลิตใหม่ และขอสิทธิ์ BOI ใหม่ เพิ่อทดแทนบัตรเก่า
- เพิ่มระบบ Automation เพื่อเพิ่ม Productivity
- ราคาสาหร่ายตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัด หากราคาสาหร่ายไม่ลดลงอย่างที่คิด จะต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ให้เหมาะสม